พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
พระสมเด็จงาแกะ ...
พระสมเด็จงาแกะ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
พระสมเด็จงาแกะ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เนื้องาแห้งเก่าดูง่ายสบายตาครับ

#คำอาราธนาพระเครื่องของ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ตั้งนะโม 3 จบ ให้ระลึกพระรัตนตรัย

จึงอาราธนาว่าดังนี้ “พระพุทธะราธนานัง พระธัมมะราธนานัง พระสังฆะราธนานัง วิญญาณ นะสัมปันโน อิติปิโส นะโมพุทธายะ” เมื่อเข้าที่คับขัน จงภาวนาพระคา (ชินบัญชร) ย่อดังนี้ “ชะยา สะนา กาตา พุทธาฯ” -พระสมเด็จงาแกะ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เนื้องาฉ่ำเก่า มันส์เงา

——————

พระเกจิอาจารย์อาคมขลัง เป็นที่ประจักษ์โด่งดังแห่งยุค ดังวลีอมตะ “ท่านมุ่ยได้ข่าวว่าท่านขลังนัก ทำอย่างไรถึงขลัง”
“ตั้งแต่เกล้าบวชทำแต่ความดีไม่เคยทำชั่ว ถ้าจะขลังก็ขลังที่ความดีขอรับ”
อายุ ๘๖ ปี (ปี ๒๔๓๑ – ๒๕๑๗)

พ.ศ.๒๔๗๕ ได้รับตราตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดดอนไร่
พ.ศ.๒๔๗๖ ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะ ตำบลหนองสะเดา
พ.ศ.๒๔๙๖ ได้รับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์
ฑ.ศ.๒๕๐๒ ได้รับสมณะศักดิ์ เป็นพระครูชั้นตรี (พระครูสุวรรณวุฒาจารย์)

หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่

เป็นบุตรของนายเหมือน นางซัง นามสกุล มีศรีชัย เกิดวันพฤหัสบดีที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๓๑ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนอ้าย ปีฉลู เป็นบุตรคนกลางในจำนวน ๕ คน อุปสมบทครั้งแรก ปี ๒๔๕๑ จนถึงปี ๒๔๖๓ จึงลาสิกขามาเพื่อช่วยครอบครัวได้ไม่กี่เดือนผมยังไม่ทันยาวก็เกิดอาการป่วยมือสั่นและทรุดลงเรื่อยๆ รักษาไม่ได้บรรดาญาติจึงขอให้ท่านอธิษฐานถ้าหายเจ็บไข้จะบวชอีกครั้ง หลังจากนั้นท่านจึงหาย และได้อุปสมบทเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์อีกครั้ง ณ พัทธสีมา วัดดอนบุปผาราม อ.ศรีประจันต์ หลวงพ่อมุ่ยได้ศึกษาเล่าเรียนกับพระอุปปัชฌาย์รูปแรกของท่าน หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา มาโดยตลอดตั้งแต่แรก ซึ่งในยุคนั้นสำนักวัดหัวเขาโด่งดังมาก รวมถึงในปี ๒๔๖๓ นั้นหลวงพ่ออิ่มท่านได้ฝากหลวงพ่อมุ่ยไว้กับพระอาจารย์ที่สุดยอดขิงเมืองไทยอีกรูปนึงคือ หลวงพ่อวัดปากคลองมะขามเฒ่า หรือหลวงปู่ศุข นั่นเอง โดยหลวงพ่ออิ่มถึงกับออกปากชมว่า “ท่านได้วิชาหลวงปู่ศุขมาครึ่งเล่ม ส่วนท่านมุ่ยได้มาเล่มครึ่ง” ซึ่งหมายความว่าตัวท่านนั้นแก่ชราแล้วความจำสู้พระหนุ่มๆอย่างหลวงพ่อมุ่ยไม่ได้นั่นเอง ส่วนคำว่าเล่มนั่นหมายความถึงเล่มเกวียน ที่มีขนาดพอๆกับรถกะบะใหญ่ๆสมัยนี้นั่นเอง และก่อนหลวงพ่ออิ่มมรณะภาพท่านยังออกปากว่า “ถ้าสิ้นบุญท่านแล้ว จะมีดอกบัวบานทางทิศใต้” ซึ่งหมายถึงวัดดอนไร่นั่นเอง และหลังจากปี ๒๕๐๐ เป็นต้นมา ชื่อเสียงของหลวงพ่อมุ่ยในด้านความขลัง ศักดิ์สิทธิ์ รดน้ำมนต์ ค้าขาย โด่งดังเป็นที่สุดในแถบภาคกลาง เกิดเป็นวลีอมตะ ดังที่สมเด็จพระสังฆราช จวน วัดมกุฏกษัตริยาราม ได้เสด็จมาเป็นประธานในการปลุกเสกพระเครื่องยุทธหัตถี ที่พระวิสุทธิสารเถระ หรือหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เป็นแม่งานในการจัดสร้าง สมเด็จฯได้พบกับหลวงพ่อมุ่ย จึงตรัสถามหลวงพ่อมุ่ยว่า “ท่านมุ่ยได้ข่าวว่าท่านขลังนัก ทำอย่างไรถึงขลัง” หลวงพ่อมุ่ยก็ตอบว่า”ตั้งแต่เกล้าบวชทำแต่ความดีไม่เคยทำชั่ว ถ้าจะขลังก็ขลังที่ความดีขอรับ” สมเด็จฯได้ยินดังนั้นทรงชื่นชอบในคำตอบของหลวงพ่อมุ่ยเป็นอย่างมาก

การปลุกเสกพระเครื่งนั้น หลวงพ่อมุ่ย ท่านไม่ค่อยที่จะสร้างมากนักมีแต่ลูกศิษย์กับญาติโยมในวัดที่ร้องขอท่านเพราะต้องการที่จะสร้างถาวรวัตถุภายในบริเวณวัดให้และแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมทำบุญ ซึ่งท่านก็เมตตาปลุกเสกและแนะนำให้ การเสกแต่ละครั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นรูปหล่อ สิงห์งาแกะ ท่านปลุกเสกจนขยับวิ่งได้ราวกับมีชีวิตเลยที่เดียวจากคำบอกเล่าของศิษย์ใกล้ชิด ช่วงว่างของท่านนั้นท่านจะภาวนาอยู่เสมอและจ้องมองไปที่ต้นสำโรงต้นใหญ่กลางวัดเป็นประจำ เม็ดสำโรงของวัดดอนไร่ก็ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก แม้กระทั่งก้นยาฉุนของหลวงพ่อมุ่ยนั้น ช่วงแรกๆ วัยรุ่นแถววัดที่ไม่ค่อยมีสตางค์นำก้นยาใส่กระเป๋าไปเที่ยวงานต่างถิ่นและมีเรื่องมีราวชกต่อยไล่ฟันกันไม่เข้า และอีกเรื่องนึงเด็กวัดได้เหน็บก้นยาหลวงพ่อมุ่ยไว้ที่เอว ถูกสุนัขกัดจนล้มก็ไม่เข้า ต่อมาจึงเป็นที่นิยมมากขึ้น จนมาเฝ้ากันใต้กุฏิหลวงพ่อมุ่ย นั่งรอก้นยาฉุนเวลาที่หลวงพ่อท่านสูบ บางครั้งหลวงพ่อท่านก็เย้าเล่นโยนลงไปพวกเด็กๆก็วิ่งตามไปปรากฎว่าไม่มีก้นยาหล่นมา หลวงพ่อท่านก็ยิ้ม หลวงพ่อมุ่ยท่านรับสงเคราะห์อนุเคราะห์ลูกศิษย์ไม่เลือกชั้นวรรณะ จะร่ำรวยมียศถาบรรดาศักดื์มาก็ต้องตามคิวรอไม่มีมาหลังได้ก่อนมาก่อนได้หลัง จังหวัดข้างเคียง ชัยนาท สิงห์บุรี อยุธยาในยุคนั้นวิ่งเข้าวัดดอนไร่มากมายนักว่ากันว่าสิงห์งาแกะหรือวัตถุมงคลงาแกะต่างๆ ที่นิยมจากช่างพยุหะคิรีนั้นทำส่งวัดดอนไร่เป็นปี๊บๆ ก็ไม่พอเช่าบูชาแก่ญาติโยมและลูกศิษย์ในยุคนั้นเลยทีเดียว
หลวงพ่อมุ่ย ละสังขารเมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๑๗ แต่ความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านยังคงอยู่ตราบนานเท่านาน

ผู้เข้าชม
76 ครั้ง
ราคา
3000
สถานะ
มาใหม่
โดย
ชื่อร้าน
พลศรีทองพระเครื่อง2 ( บู เชียงราย )
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
busoftware52
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
เจริญสุขทองธนบุรีsakunchartยอด วัดโพธิ์ponsrithong2พล ปากน้ำ
swatfrank_tumErawanเซียนtermboonsadao
เปียโนBAINGERNep8600somphopchathanumaannatthanet
Pumneehoppermanนรินทร์ ทัพไทยปลั๊ก ปทุมธานีเนินพระ99chaithawat
chaokohบ้านพระสมเด็จjochoNithipornvanglannasblom

ผู้เข้าชมขณะนี้ 476 คน

เพิ่มข้อมูล

พระสมเด็จงาแกะ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่



  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
พระสมเด็จงาแกะ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
รายละเอียด
พระสมเด็จงาแกะ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เนื้องาแห้งเก่าดูง่ายสบายตาครับ

#คำอาราธนาพระเครื่องของ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ตั้งนะโม 3 จบ ให้ระลึกพระรัตนตรัย

จึงอาราธนาว่าดังนี้ “พระพุทธะราธนานัง พระธัมมะราธนานัง พระสังฆะราธนานัง วิญญาณ นะสัมปันโน อิติปิโส นะโมพุทธายะ” เมื่อเข้าที่คับขัน จงภาวนาพระคา (ชินบัญชร) ย่อดังนี้ “ชะยา สะนา กาตา พุทธาฯ” -พระสมเด็จงาแกะ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เนื้องาฉ่ำเก่า มันส์เงา

——————

พระเกจิอาจารย์อาคมขลัง เป็นที่ประจักษ์โด่งดังแห่งยุค ดังวลีอมตะ “ท่านมุ่ยได้ข่าวว่าท่านขลังนัก ทำอย่างไรถึงขลัง”
“ตั้งแต่เกล้าบวชทำแต่ความดีไม่เคยทำชั่ว ถ้าจะขลังก็ขลังที่ความดีขอรับ”
อายุ ๘๖ ปี (ปี ๒๔๓๑ – ๒๕๑๗)

พ.ศ.๒๔๗๕ ได้รับตราตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดดอนไร่
พ.ศ.๒๔๗๖ ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะ ตำบลหนองสะเดา
พ.ศ.๒๔๙๖ ได้รับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์
ฑ.ศ.๒๕๐๒ ได้รับสมณะศักดิ์ เป็นพระครูชั้นตรี (พระครูสุวรรณวุฒาจารย์)

หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่

เป็นบุตรของนายเหมือน นางซัง นามสกุล มีศรีชัย เกิดวันพฤหัสบดีที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๓๑ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนอ้าย ปีฉลู เป็นบุตรคนกลางในจำนวน ๕ คน อุปสมบทครั้งแรก ปี ๒๔๕๑ จนถึงปี ๒๔๖๓ จึงลาสิกขามาเพื่อช่วยครอบครัวได้ไม่กี่เดือนผมยังไม่ทันยาวก็เกิดอาการป่วยมือสั่นและทรุดลงเรื่อยๆ รักษาไม่ได้บรรดาญาติจึงขอให้ท่านอธิษฐานถ้าหายเจ็บไข้จะบวชอีกครั้ง หลังจากนั้นท่านจึงหาย และได้อุปสมบทเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์อีกครั้ง ณ พัทธสีมา วัดดอนบุปผาราม อ.ศรีประจันต์ หลวงพ่อมุ่ยได้ศึกษาเล่าเรียนกับพระอุปปัชฌาย์รูปแรกของท่าน หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา มาโดยตลอดตั้งแต่แรก ซึ่งในยุคนั้นสำนักวัดหัวเขาโด่งดังมาก รวมถึงในปี ๒๔๖๓ นั้นหลวงพ่ออิ่มท่านได้ฝากหลวงพ่อมุ่ยไว้กับพระอาจารย์ที่สุดยอดขิงเมืองไทยอีกรูปนึงคือ หลวงพ่อวัดปากคลองมะขามเฒ่า หรือหลวงปู่ศุข นั่นเอง โดยหลวงพ่ออิ่มถึงกับออกปากชมว่า “ท่านได้วิชาหลวงปู่ศุขมาครึ่งเล่ม ส่วนท่านมุ่ยได้มาเล่มครึ่ง” ซึ่งหมายความว่าตัวท่านนั้นแก่ชราแล้วความจำสู้พระหนุ่มๆอย่างหลวงพ่อมุ่ยไม่ได้นั่นเอง ส่วนคำว่าเล่มนั่นหมายความถึงเล่มเกวียน ที่มีขนาดพอๆกับรถกะบะใหญ่ๆสมัยนี้นั่นเอง และก่อนหลวงพ่ออิ่มมรณะภาพท่านยังออกปากว่า “ถ้าสิ้นบุญท่านแล้ว จะมีดอกบัวบานทางทิศใต้” ซึ่งหมายถึงวัดดอนไร่นั่นเอง และหลังจากปี ๒๕๐๐ เป็นต้นมา ชื่อเสียงของหลวงพ่อมุ่ยในด้านความขลัง ศักดิ์สิทธิ์ รดน้ำมนต์ ค้าขาย โด่งดังเป็นที่สุดในแถบภาคกลาง เกิดเป็นวลีอมตะ ดังที่สมเด็จพระสังฆราช จวน วัดมกุฏกษัตริยาราม ได้เสด็จมาเป็นประธานในการปลุกเสกพระเครื่องยุทธหัตถี ที่พระวิสุทธิสารเถระ หรือหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เป็นแม่งานในการจัดสร้าง สมเด็จฯได้พบกับหลวงพ่อมุ่ย จึงตรัสถามหลวงพ่อมุ่ยว่า “ท่านมุ่ยได้ข่าวว่าท่านขลังนัก ทำอย่างไรถึงขลัง” หลวงพ่อมุ่ยก็ตอบว่า”ตั้งแต่เกล้าบวชทำแต่ความดีไม่เคยทำชั่ว ถ้าจะขลังก็ขลังที่ความดีขอรับ” สมเด็จฯได้ยินดังนั้นทรงชื่นชอบในคำตอบของหลวงพ่อมุ่ยเป็นอย่างมาก

การปลุกเสกพระเครื่งนั้น หลวงพ่อมุ่ย ท่านไม่ค่อยที่จะสร้างมากนักมีแต่ลูกศิษย์กับญาติโยมในวัดที่ร้องขอท่านเพราะต้องการที่จะสร้างถาวรวัตถุภายในบริเวณวัดให้และแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมทำบุญ ซึ่งท่านก็เมตตาปลุกเสกและแนะนำให้ การเสกแต่ละครั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นรูปหล่อ สิงห์งาแกะ ท่านปลุกเสกจนขยับวิ่งได้ราวกับมีชีวิตเลยที่เดียวจากคำบอกเล่าของศิษย์ใกล้ชิด ช่วงว่างของท่านนั้นท่านจะภาวนาอยู่เสมอและจ้องมองไปที่ต้นสำโรงต้นใหญ่กลางวัดเป็นประจำ เม็ดสำโรงของวัดดอนไร่ก็ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก แม้กระทั่งก้นยาฉุนของหลวงพ่อมุ่ยนั้น ช่วงแรกๆ วัยรุ่นแถววัดที่ไม่ค่อยมีสตางค์นำก้นยาใส่กระเป๋าไปเที่ยวงานต่างถิ่นและมีเรื่องมีราวชกต่อยไล่ฟันกันไม่เข้า และอีกเรื่องนึงเด็กวัดได้เหน็บก้นยาหลวงพ่อมุ่ยไว้ที่เอว ถูกสุนัขกัดจนล้มก็ไม่เข้า ต่อมาจึงเป็นที่นิยมมากขึ้น จนมาเฝ้ากันใต้กุฏิหลวงพ่อมุ่ย นั่งรอก้นยาฉุนเวลาที่หลวงพ่อท่านสูบ บางครั้งหลวงพ่อท่านก็เย้าเล่นโยนลงไปพวกเด็กๆก็วิ่งตามไปปรากฎว่าไม่มีก้นยาหล่นมา หลวงพ่อท่านก็ยิ้ม หลวงพ่อมุ่ยท่านรับสงเคราะห์อนุเคราะห์ลูกศิษย์ไม่เลือกชั้นวรรณะ จะร่ำรวยมียศถาบรรดาศักดื์มาก็ต้องตามคิวรอไม่มีมาหลังได้ก่อนมาก่อนได้หลัง จังหวัดข้างเคียง ชัยนาท สิงห์บุรี อยุธยาในยุคนั้นวิ่งเข้าวัดดอนไร่มากมายนักว่ากันว่าสิงห์งาแกะหรือวัตถุมงคลงาแกะต่างๆ ที่นิยมจากช่างพยุหะคิรีนั้นทำส่งวัดดอนไร่เป็นปี๊บๆ ก็ไม่พอเช่าบูชาแก่ญาติโยมและลูกศิษย์ในยุคนั้นเลยทีเดียว
หลวงพ่อมุ่ย ละสังขารเมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๑๗ แต่ความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านยังคงอยู่ตราบนานเท่านาน

ราคาปัจจุบัน
3000
จำนวนผู้เข้าชม
77 ครั้ง
สถานะ
มาใหม่
โดย
ชื่อร้าน
พลศรีทองพระเครื่อง2 ( บู เชียงราย )
URL
เบอร์โทรศัพท์
0877124640
ID LINE
busoftware52
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี